ลิซ่า BLACKPINK ประวัติ กับ 10 เรื่องชวนว้าวของสาวนักล่าฝัน ผู้โด่งดังระดับโลก
2018-10-10
ลิซ่า BLACKPINK ประวัติ และ 10 เรื่องราวน่าสนใจของสาวไทยคนเก่ง ที่ทั้งสวย ทั้งมากความสามารถ สมกับเป็นไอดอลชื่อเสียงดังระดับโลก
ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วนาทีนี้ สำหรับ ลิซ่า BLACKPINK สาวน้อยสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี เจ้าของเพลงฮิตกับเนื้อร้อง "Hit you with that Duu-Du Duu-Du" ที่ศิลปินบ้านเราหยิบมาร้องกันอยู่บ่อย ๆ จนติดหูกันไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นขวัญใจของพ่อยกแม่ยกชาวไทยแล้ว ตอนนี้ลิซ่าก็กำลังเนื้อหอมชนิดที่มีงานเข้ามาไม่ขาด ทั้งออกรายการเรียลลิตี้ เป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอาง เป็นนางแบบให้แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ แถมยังติดโผเป็นหนึ่งในสาวหน้าสวยระดับโลกประจำปี 2018 อีกต่างหาก นี่ถ้าไม่ฮอตจริง ทำไม่ได้ขนาดนี้นะเนี่ยย
ว่าแล้ววันนี้เรามาทำความรู้จักตัวตนอีกมุมของสาวน้อยคนเก่ง ลิซ่า BLACKPINK กับ 10 เรื่องราวชวนว้าว ที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาฝากกันดีกว่า แล้วคุณจะเข้าใจเลยว่า ทำไมเธอถึงทั้งสวย ทั้งเก่ง แถมยังเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลกขนาดนี้ ระวัง.. จะตกหลุมรักกันไม่รู้ตัว ^^
1. ประวัติ ลิซ่า BLACKPINK กับชื่อจริงที่เปลี่ยนไปตามดวง
ลลิษา มโนบาล หรือ ลลิส เกิดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 1997 ปัจจุบันอายุ 21 ปี จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนประภามนตรี 1 และระดับมัธยมที่โรงเรียนประภามนตรี 2 ส่วนสูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 46 กิโลกรัม แรกเริ่มเดิมทีลิซ่ามีชื่อจริงว่า ปราณปรียา ก่อนทางครอบครัวจะเปลี่ยนชื่อให้เป็น ลลิษา ที่มีความหมายว่า "บุคคลที่ได้รับการยกย่อง" ตามดวงที่ไปดูกันมา โดยสมัยเด็กลิซ่ามีชื่อเล่นน่ารัก ๆ ว่า ป๊อกแป๊ก ทำให้เหล่าแฟนคลับชาวไทยหยิบมาเรียกด้วยความเอ็นดูว่า พ้อกแพ้ก ที่ดัดแปลงมาจากการออกเสียงแบบเกาหลี (พ้อกคึแพ้กคึ) นั่นเอง
2. มีครอบครัวอบอุ่นและพ่อบุญธรรมดีกรีเชฟระดับโลก
สาวน้อยลิซ่า เติบโตพร้อมญาติ ๆ ที่สนิทสนมกันเป็นอย่างดีในจังหวัดบุรีรัมย์ และแม้จะเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนเดียว ของคุณพ่อคุณแม่สายเลือดไทยแท้ ๆ แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลูกครึ่ง เนื่องจากเธอนั้นมีพ่อบุญธรรมคือ มาร์โค บรูชไวเลอร์ (Marco Brueschweiler) ชาวสวิส ที่มีดีกรีเป็นถึงเชฟชื่อดังระดับโลก ควบตำแหน่งที่ปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร ครูผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย รวมถึงเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดแข่งขันทำอาหารทั่วเอเชีย ซึ่งคุณพ่อมาร์โคก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เลี้ยงดูลิซ่าด้วยความรัก ความเอ็นดูมาตั้งแต่ยังตัวเล็กตัวน้อยเลยทีเดียว
3. เป็นนักกิจกรรมตัวยงตั้งแต่เด็ก ๆ
เมื่อรู้ตัวว่ามีความฝันอยากเป็นศิลปิน ลิซ่าตัวน้อยก็เดินหน้าสมัครเรียนทั้งเต้นทั้งร้องในสาขาที่หลากหลาย ตั้งแต่ ฮิปฮอป รำไทย ไปจนถึงร้องเพลงลูกทุ่ง กับคุณครูระดับมืออาชีพอย่าง คุณประภัสสร เทียมประเสริฐ เจ้าของรางวัลโทรทัศน์ทองคำ และคุณสุภาพรรณ ผลากรกุล หรือครูก้อย แห่งบ้าน AF โดยผลงานในวัยเด็กของลิซ่าก็ไม่ธรรมดา เพราะได้เป็นถึงตัวแทนโรงเรียนไปประกวดร้องเพลง คว้ารางวัลรองชนะเลิศในโครงการ 3 คุณธรรมนำไทยเมื่อปี 2009 และเป็นขาประจำในการแข่งเต้นของโครงการ To Be Number One ตั้งแต่ตอนประถมอีกด้วย
4. ถูกคัดเลือกให้เป็นศิลปินฝึกหัดตั้งแต่อายุ 14
หลังเดินสายประกวดในประเทศมาแล้วแทบจะทุกเวที ลิซ่าก็พร้อมลุยงานออดิชั่นระดับเอเชียอย่าง YG Audition in Thailand 2010 ซึ่งความสามารถนั้นก็โดดเด่น จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นศิลปินฝึกหัดในสังกัด วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงเกาหลีตั้งแต่ปี 2011 โดยใช้เวลาฝึกร่วม 5 ปี 3 เดือน ก่อนได้เดบิวต์เปิดตัวครั้งแรกในฐานะ ลิซ่า แรปเปอร์แห่งวง BLACKPINK ด้วยเพลง "Whistle" และ "Boombayah" เมื่อปี 2016 ซึ่งก็ติดหูฮอตฮิตไปทั่วโลกจนยอดวิวแต่ละเพลงนั้นทะลุ 250-370 ล้านเข้าไปแล้ว
5. มีผลงานตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์
นอกจากได้ร่วมแจมในมิวสิกวิดีโอเพลง "Ringa Linga" ของแทยัง แห่งวงรุ่นพี่ชื่อดัง Bigbang แล้ว ก่อนได้เดบิวต์กับวงอย่างเป็นทางการ ลิซ่ายังเป็นนางแบบประจำแบรนด์เสื้อผ้าของต้นสังกัดอย่าง NONA9ON ร่วมกับหนุ่ม บ๊อบบี้ และ บีไอ แห่งวง iKON ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันอีกด้วย นี่แหละขวัญใจแมวมองที่แท้จริง
6. สวยของแท้ ไม่เคยผ่านมีดหมอ
สำหรับคนที่สงสัยว่า ลิซ่านั้นทำศัลยกรรมอัปหน้ามาหรือไม่ เราขอตอบเลยว่าไม่ได้ทำอย่างแน่นอน การันตีด้วยกฎตามสัญญาของต้นสังกัด ที่สั่งห้ามศิลปินทำศัลยกรรมโดยเด็ดขาด ตั้งแต่ปี 2013 นั่นหมายความว่าที่ลิซ่าดูดีขึ้นผิดหูผิดตา ก็เป็นเพราะโครงหน้าที่เปลี่ยนไปตามวัย บวกกับได้เมคอัพเทพ ๆ สไตล์เกาหลีช่วยเสริมให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้วเป๊ะขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง
7. เป็นสมาชิกแก๊งแทกุกไลน์
โดยส่วนตัวลิซ่านั้น สนิทสนมกับไอดอลไทยในวงการเกาหลีคนอื่นเอามาก ๆ นับตั้งแต่ แบมแบม GOT7 และเตนล์ NCT เพราะเคยร่วมทีมเต้นประกวด We Zaa Cool ด้วยกันสมัยเด็ก รวมถึง สร CLC และมินนี่ (G)I-DLE ผู้เป็นเพื่อนสาวที่คอยให้กำลังใจกันเมื่อครั้งเดินทางไปฝึกที่เกาหลีใหม่ ๆ ซึ่งปัจจุบันทุกคนก็ยังรักใคร่กลมเกลียวกันดี ขนาดมีกรุ๊ปไลน์เฉพาะของเด็กไทยในเกาหลี โดยแฟน ๆ จะเรียกชาวแก๊งนี้ว่า แทกุกไลน์ ที่มีความหมายว่ากลุ่มไอดอลคนไทย และแน่นอนว่าไอดอลรุ่นบุกเบิกอย่าง นิชคุณ 2PM ก็เป็นหนึ่งในชาวแก๊งนี้เช่นเดียวกัน
8. พูดได้มากถึง 4 ภาษา
นอกเหนือจากภาษาไทยที่เป็นภาษาแม่แล้ว ลิซ่านั้นสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้อีก 3 ภาษาด้วยกัน คือ ภาษาอังกฤษ จากการใช้สื่อสารกับคุณพ่อบุญธรรมมาร์โคตั้งแต่ยังเล็ก ภาษาเกาหลี จากการบินไปใช้ชีวิตเด็กฝึกหัดถึงถิ่นตั้งแต่อายุ 14 และภาษาญี่ปุ่น ที่ต้นสังกัดให้เรียนเพิ่มเติมเพื่อการโปรโมตเพลงและตัววง จัดว่าเป็นสาวเก่ง ความสามารถจัดเต็มสมกับเป็นไอดอลของทุกคนเลยจริง ๆ
9. ศิลปินหญิงไทยคนแรกที่ได้ขึ้นบิลบอร์ดในมหานครนิวยอร์ก
ด้วยความสามารถที่เก่งจนน่าชื่นชม รวมถึงนิสัยติดดินเป็นกันเอง รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน และใส่ใจแฟนคลับอยู่เสมอ ทำให้ลิซ่าเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลก ถึงขนาดทุ่มทุนเปย์เงินหมดหน้าตัก เช่าบิลบอร์ดราคาแพงใจกลางไทม์สแควร์ และป้ายโฆษณาฉายภาพเคลื่อนไหวบนห้าง Coex Mall ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่ออวยพรวันเกิด 21 ปี ทำให้ลิซ่ากลายเป็นศิลปินหญิงสัญชาติไทยคนแรกที่ได้ขึ้นบิลบอร์ดในย่านดัง
10. ยอดฟอลโล IG สูงเป็นอันดับ 2 ของไทย !
ถ้าบิลบอร์ดในไทม์สแควร์ยังไม่ทำให้คุณเชื่อว่า ลิซ่าของเรานั้นฮอตขนาดไหน เราขอยืนยันอีกเสียงด้วยยอดฟอลโลบนอินสตาแกรม lalalalisa_m ที่พุ่งสูงถึง 8.1 ล้านคน ในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากเปิดใช้ ทำให้สาวลิซ่านั้นคว้าตำแหน่งดาราที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเมืองไทย เป็นรองแค่ผู้ครองอันดับ 1 ตลอดกาลอย่างซูเปอร์สตาร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เท่านั้นเอง
โอ้โห.. ทั้งสวย น่ารัก ความสามารถครบเครื่อง แถมหัวใจยังว่างแบบนี้ ไหนใครตกหลุมรักเธอแล้วบ้าง สารภาพมาซะดี ๆ ! :D
